วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

พิพิธภัณฑ์เปลือกหอย



ชมไข่มุกสีทองและฟอสซิลหอยร้อยล้านปี

เป็นสถานที่เก็บรวบรวมเปลือกหอยที่พบในท้องทะเลอันดามันและท้องทะเลทั่วโลก  และจัดแสดงอย่างเป็นระบบ  มีข้อมูลประกอบอย่างน่าสนใจ  นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
    
     ประวัติ  สมนึก ปัทมคันธิน  เจ้าของพิพิธภัณฑ์ฯ เป็นผู้ที่สนใจเรื่องหอยมาตั้งแต่เยาว์วัย  จึงเริ่มศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง  ทั้งรับซื้อและแลกเปลี่ยนเปลือกหอยจากคนภูเก็ตและสนใจหอยทั่วไป  ทำให้มีเปลือกหอยแปลกใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  กระทั่งคิดสร้างพิพิธภัณธ์เปลือกหอยขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องหอยแก่บุคคลทั่วไป  โดยเปิดให้เข้าชมเมื่อเดือนธันวาคม  2540

สิ่งที่น่าสนใจ

      ภายในอาคารพิพิธภันฑ์จัดเเสดงเปลือกหอยเป็นหมวดหมู่อย่างสวยงาม  จำแนกเป็นประเภทใหญ่ๆสี่กลุ่มได้แก่ 
1.   หอยเบี้ย  เป็นหอยที่คนนิยมสะสมมากที่สุด  เปลือกโค้งมนผิวเปลือกเป็นมันวาวคล้ายกระเบื้องเคลือบ
2.   หอยเต้าปูน  เป็นหอยมีพิศเลืองเป็นทรงกรวย  มีขนาด  สีสันและลวดลาย ที่หลากหลายมาก
3.   หอยสังข์หนาม หรือหอยหน้ายักษ์  เป็นหอยทะเลกลุ่มใหญ่ที่สุด เป็นหอยฝาเดี่ยว มีหนามขึ้นเป็นแนวรอบตัว
4.   หอยสังข์จุกพราหมณ์  อาศัยอยู่ตามพื้นทรายปนเลนนอกแนวชายฝั่ง  พบในไทยเพียงสองชนิด

      หอยแต่ละกลุ่มที่จัดแสดง  มีทั้งเปลือกหอยที่พลในน่านน้ำไทย เช่น  บริเวณ  จ.ภูเก็ต สตูล  กระบี่  ระนอง  เปลือกหอยจากหลายประเทศทั่วโลก  เช่น  จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  อ่าวเม็กซิโก  แอฟริกาใต้  เป็นต้น  เป็นทั้งเปลือกหอยที่หายาก  หอยทุกตัวมีป้ายบอกชื่อ  ลำดับชั้นทางวิทยาศาสตร์  และคำบรรยายภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  ตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น ไข่มุกทองหนัก 140 กะรัต ที่พบทางฝั่งตะวันตกของภูเก็ต ฟอสซิลหอยกาบสองฝาอายุนับร้อยล้านปี

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หาดในหาน

    


      เป็นชายหาดที่อยู่ทางด้านใต้ของภูเก็ต  จุดเด่นของหาดคือมีเรือยอชต์จำนวนมากทั่วโลกมาจอดพักที่นี่  จนกลายเป็นแหล่งชุมนุมเรือยอชต์  ชื่อโรงแรมบนหาดนี้ก็มีความหมายเกี่ยวข้องกับเรือยอชต์

 สิ่งที่น่าสนใจ
      หาดทรายขาวสะอาด  น้ำใส  ลงเล่นน้ำได้  แต่หาดลึกชันต้องใช้ความระมัดระวัง  ทั้งหน้ามรสุมจะมีคลื่นสูง  ริมหาดไม่มีไม้ใหญ่ให้ร่มเงา  ช่วงกลางวันอากาศจึงค่อนข้างร้อน  แต่ทว่าบรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง  เรือแต่ละลำสีสวยสะดุดตาแต่งแต้มสีสันให้หาดนี้เป็นอย่างมาก  เยื้องกับหาดด้านขวามีร้านขายของ  บริษัททัวร์ และบาร์เบียร์ บริการ
 

                                                 จองโรงแรมที่พักบริเวณหาดในหาน  คลิก

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

จุดชมทิวทัศน์สามอ่าว

จุดชมทิวทัศน์สามอ่าว
          

           เป็นจุดชมทิวทัศน์ยอดนิยมเช่นเดียวกับแหลมพรหมเทพ  นักท่องเที่ยวมักมาแวะชมทิวทัศน์ที่นี่  ก่อนไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ  การชมท้องทะเลจากมุมสูงให้อารมณ์และบรรยากาศต่างกับการยืนชมบริเวณหน้าหาดมากทีเดียว

สิ่งน่าสนใจ
           จุดชมทิวทัศน์มีลักษณะเป็นเนินเขาสูง  บนเนินมีศาลาเล็ก ๆ ให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์  แต่ตรงลานจอดตถด้านล่างก็มองเห็นทิวทัศน์ได้เช่นกัน  บริเวณศาลาบนเนินลมพัดเย็นสบาย  มองเห็นหาดสามแห่ง  หาดที่อยู่ใกล้ตัวมากสุด คือ หาดกะตะน้อย  ถัดไปเป็นหาดกะตะและหาดกะรนตามลำดับ  เนื่องจากคลื่นลมมรสุมกัดเซาะ  ทำให้แผ่นดินเว้าลึกเข้าไป  ทั้งสาามหาดจึงมีลักษณะเป็นอ่าวเว้าโค้งรูปพระจันทร์เสี้ยวติดต่อกันสามอ่าว  โดยมีโขดหินเป็นแหลมคั่นแต่ละหาด ในวันที่ทัศนวิสัยดีจะเห็นน้ำทะเลเป็นสีน้ำเงินเข้ม  คราม  ฟ้า  เขียวมรกต  ไล่โทนแก่อ่อนอย่างงดงาม ตัดกับสีขาวสะอาดของหาดทรายที่แต่งแต้มด้วยร่มหลากสี  มีเรือลำน้อยแล่นอยู่ลิบ ๆ  ใกล้เข้ามาเป็นยอดตึกของกลุ่มโรงแรมกะตะธานี บีช รีสอร์ต  และเรือนยอดมะพร้าว

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ต


 
ย้อนรอยบรรยากาศเหมืองแร่

        พิพิธภัณฑ์อยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรม  ชิโน-โปรตุเกส  จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของชาวจีนฮกเกี้ยน   การทำเหมืองแร่แบบต่าง ๆ พร้อมหุ่นจำลองที่เหมือนจริง

สิ่งที่น่าสนใจ

      ภายนอกอาคารมีรางเหมืองแร่  หน้าผาเหมืองแร่  และขุมเหมือง  ภายในอาคารแบ่งเป็นส่วนๆ  ดังเช่น

      ห้องเรือนดารากร  จัดแสดงเรื่องกำหนดโลก  โครงสร้างชั้นต่างๆของโลก  ตลอดจนการกำเนิดสิ่งมีชีวิต  และวิวัฒนาการของมนุษย์  โดยใช้หุ้นจำลองยุคต่างๆบอกเล่าเรื่องราว

      ห้องเปิดลับแลมานฟ้าเกาะพญามังกร  แสดงวัตถุโบราณซึ่งมีอายุราว  500  ปี  เช่น  เหรียญเงินตราภูเก็ต  เงินปีก  เหรียญเล่าเอี้ยที่ทำจากดีบุก  เงินพด  เหรียญจีนโบราณ  เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้จันทน์หอมมีพระพักตร์ขนาดเท่าเมล็ดข้าว  เพชรภูเก็ตที่ได้จากเหมืองแร่ดีบุก  เป็นต้น

      ห้องสายแร่แห่งชีวิต    จัดแสดงแบบจำลองการทำเหมืองชนิดต่างๆ  เช่น  เหมืองแล่น  เหมืองรู  (  เหมือง)  เหมืองหาบ  เหมืองฉีด  พร้อมคำอธิบาย  ได้อย่างน่าสนใจ  รวมทั้งอุปกรณ์การทำแร่ขนาดใหญ่ที่เคยใช้ในอดีตและตัวอย่างแร่นานาชนิด

      ห้องฉลาดนาวาชีวิต  จำลองเรือกอจ๊านขนาดใหญ่แสดงการอพยพย้ายถิ่นของชาวฮกเกี้ยนที่มีมากกว่า  170  ปี  วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนในภูเก็ตยุคแรก  ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าจีน  ร้านของชำ  ร้านโกปี๊  โรงงิ้ว  โรงฝิ่น  ร่วมขนมธรรมเนียมต่างๆ  เช่น  การแต่งงาน  การเล่นงิ้ว  เป้นต้น

-                   เปิดวันจันทร์-ศุกร์  เวลา  08.30-16.30  .

-                   ค่าเข้าชม  คนไทย  30  บาท  ชาวต่างชาติ  100  บาท

-                   โทร. 08-6470-7767

 

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

เกาะสิเหร่และเขาสิเหร่

เกาะสิเหร่และเขาสิเหร่

ศาลเจ้ากะทู้


                                                     ชมจุดกำเนิดประเพณีกินผักในภูเก็ต

       เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีกินผักที่สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน    ช่วงประเพณีกินผักหรือกินเจ    แต่ละคืนชาวจีนจะมาชุมนุมประกอบพิธีกรรมกันที่นี่   ในศาลมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมซึ่งเป็นที่เคารพของคนเชื้อสายจีน

ประวัติ

      เชื่อกันว่า   ภูเก็ตเป็นแห่งแรกในภาคใต้ที่จัดประเพณีกินผักขึ้น   ในสมัยที่ชาวจีนเข้ามาเป็นกรรมกรเหมืองแร่   บังเอิญเกิดโรคระบาด   คณะงิ้วจากเมืองจีนที่มาทำการแสดงที่บ้านที่บ้านกะทู้จึงจัดให้มีพิธีกินผักและศาลเจ้าที่คนภูเก็ตเรียกว่า “อ๊าม” ขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์   จากนั้นโรคร้ายก็หายไป   ชาวกระทู้เกิดความเลื่อมใสจึงประกอบพิธีกินผักตาม   แล้วแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆกระทั้งหลวงอำนาจนรารักษ์ (ต้นตระกูลตัณฑเวทย์) ซึ่งเป็นนายเหมืองใหญ่และเป็นผู้นำชุมชนบ้านกะทู้   ได้ส่งคนไปนำ  “เหี่ยวเอี๊ยม” หรือขี้เถ้าธูปและกระถางรูปจากมณฑลกังไส   ประเทศจีน   มาไว้ที่ศาลเจ้านี้  เพื่อให้พิธีกินผักมีความสมบูรณ์   ศาลเจ้ากะทู้จึงได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรัยของการกินผักในปัจจุบัน

  สิ่งที่น่าสนใจ

     เจ้าแม่กวนอิม   เป็นเทพแห่งความกรุณา  ถือเป็นเทพที่สำคัญองค์หนึ่งในศาลเจ้าแห่งนี้   ศาลเจ้าจีนนิยมสร้างรูปปั้นแม่ซึ้งมีลักษณะต่างกันไปไว้บูชา   ที่ศาลเจ้า   เจ้าแม่กวนอิมทรงชุดขาว   พระพักตร์อิ่มเอิบ   มีจุดแดงที่พระนลาฏ   พระหัตถ์ขวาถือขวดน้ำมนต์พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในอิริยาบทประทานพร   ทรงยืนบนฐานมังกร

 

 

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

สวนผีเสื้อและโลกแมลง



     
     สวนผีเสื้อและโลกแมลง  เป็นสถานที่รวบรวมสายพันธุ์แมลงหลายชนิด   ทั้งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ผีเสื้ออีกกว่า  20  ชนิด

สิ่งน่าสนใจ

       สวนผีเสื้อและโลกแมลงแบ่งเป็นสามส่วน    ส่วนที่  1   เป็นอาคารจัดแสดงการกำเนิดและวิวัฒนาการของแมลง    แหล่งอาศัยของแมลงชนิดต่างๆ   เช่น    ตั๊กแตนกิ่งไม้หนาม    แมงมุมเหยี่ยว   แมลงสาบยักษ์มาดากัสการ์   แมลงกว่างญี่ปุ่น   เป็นต้น   และส่วนแสดงผีเสื้อสตัฟฟ์อย่างผีเสื้อกลางวันและผีเสื้อกลางคืน    ผีเสื้อหายากอย่างผีเสื้อหางตุ้มจุดชมพู    และวงศ์ผีเสื้อหางติ่งจากอเมริกาใต้

        ส่วนที่   2    เป็นสวนผีเสื้อเนื้อที่ราว    1,300  ตร..   โดยจำลองสภาพป่าเขตร้อนเพื่อเลี้ยงผีเสื้อกว่า   500   ตัว     นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารและสัมผัสผีเสื้อได้อย่างใกล้ชิด    นอกจากนี้ยังมีส่วนห้องเพาะพันธุ์ผีเสื้อ   ที่หากเข้าไปชมแล้วสังเกตให้ดีจะเห็นไข่ของผีเสื้อตามใบไม้ต่างๆ   มีป้ายให้ข้อมูลเกี่ยวกับวงจรชีวิต     การเจริญเติบโตของหนอนผีเสื้อจนกลายเป็นดักแด้และผีเสื้อ    รวมถึงไข่ของผีเสื้อชนิดต่างๆ

        ส่วนที่   3   เป็นพิพิธภัณฑ์หม่อนไหม    สาธิตการเลี้ยงตัวไหมและขั้นตอนการผลิตเส้นไหม                                  

เสียงจาก “ลันตา” ภัย โควิด-19 ชนไฮซีซั่น

เสียงจาก “ลันตา” ภัย โควิด-19 ชนไฮซีซั่น ทำ 3 จังหวัดท่องเที่ยวพังยับ จีนไม่มา ไร้ยอดจองนักท่องเที่ยวยุโรป ผู้ประกอบการแนะรัฐเดินหน้าสร้...