วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เสียงจาก “ลันตา” ภัย โควิด-19 ชนไฮซีซั่น

เสียงจาก “ลันตา” ภัย โควิด-19 ชนไฮซีซั่น ทำ 3 จังหวัดท่องเที่ยวพังยับ จีนไม่มา ไร้ยอดจองนักท่องเที่ยวยุโรป ผู้ประกอบการแนะรัฐเดินหน้าสร้างความมั่นใจต่างชาติ จัดมาตรการสินเชื่อเฉพาะพื้นที่

        สัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุมร่วมของ คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร และกลุ่มผู้ประกอบการ 3 จังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน ภูเก็ต กระบี่ พังงา เพื่อเก็บข้อมูลการท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลพวงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน หรือ โควิด-19
จีน อันดับ 1 นักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย

       จากรายงานของ Economist Intelligence Unit (EIU) วิเคราะห์ว่า การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนจะไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้จนถึงไตรมาส 2 ของปี 2021 และจะทำให้ทั่วโลกสูญเสียรายได้ไปถึงประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนนับล้านที่ต้องยกเลิกการเดินทาง และชะลอแผนการท่องเที่ยวออกไปเพื่อความปลอดภัยจากโรค COVID-19

      ขณะที่การท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน พึ่งพานักท่องเที่ยวจากจีนเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.62 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนกว่า 7.6 ล้านคน รองลงมาอันดับ 2 ได้แก่ นักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน จำนวน 6.8 ล้านคน ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวมาเลเซียถึง 2.6 ล้านคน และนักท่องเที่ยวลาว 1.2 ล้านคน
       
      ในส่วนของนักท่องเที่ยวจากยุโรป พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 4.3 ล้านคน และจากเอเชียใต้ จำนวน 1.5 ล้านคน เฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดีย มีจำนวนถึง 1.3 ล้านคน รวมมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดประมาณ 26 ล้านคน

      ด้านตัวเลขคาดการณ์จากสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รายงานว่าในปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 39.62 ล้านคน ทำรายได้มากถึงประมาณ 1.93 ล้านล้านบาท แต่เมื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในไตรมาสแรกปี 2563 เปลี่ยนไป จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้นตัวเลขคาดการณ์รายได้ท่องเที่ยวของปี 2563 จากจำนวนนักท่องเที่ยว 40.7 ล้านคน รายได้ 2.05 ล้านล้านบาทจึงน่าจะลดลงอย่างน่าตกใจ
เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการ 3 จังหวัดอันดามัน

      “3 จังหวัดอันดามันประกอบไปด้วย ภูเก็ต กระบี่ พังงา ถือว่าเป็นกลุ่มจังหวัดที่ทำรายได้ถึง 1 ใน 3 ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดของประเทศ โดยภูเก็ต เป็น 1 ในจุดหมายของนักท่องเที่ยวจีน นอกเหนือจากจังหวัดเชียงใหม่ และกรุงเทพฯ
วันนี้เมื่อ โควิด-19 ระบาด ยอดนักท่องเที่ยวจีนตกฮวบ หรือแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวจากจีน ผู้ประกอบการในจ.ภูเก็ต ได้รับผลกระทบหนักสุด หลายโรงแรมต้องปิดตัว ภาคบริการทั้งรถรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็น 1 ในบริษัทให้บริการทัวร์ที่ใหญ่สุดในปะเทศ วันนี้ปิดตัว 100 % แล้วเนื่องจากรับนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก ร้านอาหาร ลูกจ้าง พนักงาน เริ่มส่งเสียงสะท้อนความเดือดร้อน มันไม่ใช่ผลกระทบแค่ 30 % ตามที่ผู้ประกอบการคาดการณ์กันเอาไว้ หรือที่หน่วยงานรัฐคาดการณ์ว่า 10-20 % มันหนักกว่านั้นอาจจะถึง 70% เลยทีเดียว” วิชิต ยะลา รองนายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ บอกกับเรา เมื่อถามถึงสถานการณ์ของจังหวัดท่องเที่ยวในพื้นที่อันดามัน
จีนหาย ยุโรป ก็หนีตาม
Advertisement
ส่วนตัวของ “วิชิต”เอง เป็นผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์ในพื้นที่เกาะลันตา จ.กระบี่ แม้ที่ผ่านมารายได้หลักไม่ได้มาจากนักท่องเที่ยวจีน แต่ลูกค้าหลักอย่างนักท่องเที่ยวยุโรปก็หดหายตามไปด้วย
“พื้นที่เกาะลันตา ไม่ใช่เป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวจีน แต่ถือเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวยุโรป วันนี้สถานการณ์ของโควิด-19 มันไม่ได้กระทบเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน แต่นักท่องเที่ยวยุโรปต่างยกเลิกทัวร์มาไทย และเปลี่ยนจุดมุ่งหมายไปยังประเทศอื่นแทน เพราะไทยเองมีผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสดังกล่าว มันเป็นเรื่อง Sensitive ซึ่งนักท่องเที่ยวยุโรปให้ความสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น พ่อแม่ของนักท่องเที่ยวบางรายซึ่งเป็นวัยรุ่น ได้โทรศัพท์มาขอให้ลูกของตัวเองกลับบ้านทันทีเมื่อมีการแพร่ระบาดของไวรัส ขณะที่ในหลายๆประเทศได้ระบุว่า หากพลเมืองของตนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยแล้ว จะขอกลับเข้าประเทศต้องถูกกักตัวเพื่อดูอาการของโรคก่อน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยในวันนี้ ” วิชิตกล่าว

เมื่อโควิด-19 ร้ายแรงกว่าสึนามิ

      “วิชิต” ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า “ ผมทำงานภาคบริการมากกว่า 20 ปี ผ่านมาทุกวิกฤติ ตั้งแต่ การต่อสู้ทางเมืองแบ่งขั้วเหลือง-แดง , ล่าสุดกับการแข็งค่าของเงินบาท จนกระทั่งวันนี้กับโคโรนา มันรุนแรงที่สุดแล้ว เพราะการแพร่ระบาดในช่วงไฮซีซั่นของอันดามัน คือเดือน ก.พ. ซึ่งเดือนเดียวผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้ เพื่อจ่ายให้กับพนักงานได้ทั้งปี การท่องเที่ยวฝั่งอันดามันใช้ช่วงเวลาตั้งแต่เดือน ธ.ค.-มี.ค. สร้างรายได้ เรียกว่า ทำ 4 เดือน เลี้ยง 8 เดือน ย้อนไปช่วงเกิด “สึนามิ” ซึ่งวันเดียวทิ้งความเสียหายให้กับผู้ประกอบทั้งหมด แต่ส่งผลต่อเนื่องไม่นาน เมื่อนักท่องเที่ยวมั่นใจแล้วก็กลับมา แต่กับ โคโรนา มันไม่ใช่ เรามองว่ามันจะกระทบในช่วงระยะเวลานานอาจนานถึง 9 เดือน หรือ 1 ปีเลยทีเดียว

รัฐต้องมีเร่งสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว
        เราถาม “วิชิต” ถึงมาตรการของรัฐที่ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ ซึ่ง “วิชิต” ได้สะท้อนมุมมองที่น่าสนใจว่า “มาตรการวันนี้ของภาครัฐที่ออกมามันยังไม่ตอบโจทย์ตรงๆของผู้ประกอบการ โดยมาตรการที่มีเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการแบบหว่านแหไม่เฉพาะเจาะจงในแต่ละภาค อย่าลืมว่าคุณจะใช้มาตรการที่ใช้ได้ผลกับภาคเหนือ ในภาคใต้ไม่ได้มันคนละบริบทกัน ผมเห็นด้วยกับมาตรการสินเชื่อ (Softloan) แต่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว มันมีทั้ง บริษัททัวร์ ธุรกิจรถทัวร์ เรือนำเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ อย่าลืมว่าผู้ประกอบการเหล่านี้ก็เป็นลูกค้ากู้กับธนาคารอยู่แล้ว บางคนเป็นเครดิตบูโร ทำอย่างไรให้เขาสามารถกู้สินเชื่อตามมาตรการได้ ควรต้องปลอดเงื่อนไขบางอย่างหรือไม่ เช่นเป็นสินเชื่อที่กำหนดเฉพาะเจาะจงในแต่ละพื้นที่ เช่น เฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวกลุ่มอันดามัน อ่าวไทย กลุ่มเมืองท่องเที่ยวหลัก เมืองรอง

        ขณะที่เรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องทำให้ขณะนี้ คือการเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา เราไม่ใช่แหล่งแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา แต่เรามีผู้ป่วยติดเชื้อ ซึ่งต้องดูแล และมีอัตราการหายจากโรคที่อยู่อันดับต้นๆของโลก ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าระบบสาธารณสุขของประเทศเรามีคุณภาพ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำ

Pai Villa Phuket เป็นวิลล่าน้องใหม่ในจังหวัดภูเก็ต

Pai Villa Phuket เป็นวิลล่าน้องใหม่ในจังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่บริเวณกะตะน้อย ตัววิลล่าสามารถมองเห็นทะเลอันดามัน และบริเวณหาดกะตะน้อยได้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่งดงามเหมาะสำหรับผู้รักความสงบหรือครอบครัว และผู้ที่ชื่นชอบการผสมผสานระหว่างความโรแมนติค ความหรูหรา และความเงียบสงบ
Pai Villa Phuket เป็นหนึ่งในหลายๆ โปรเจค ภายใต้โครงการ Z Theater ซึ่ง คุณผิง เจ้าของโครงการ เล่าว่า โครงการ นี้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่จะนำ “เรื่องเล่าจากท้องทะเล” มาเรียบเรียง และเล่าใหม่ ผ่าน สถาปัตยกรรม และ ศิลปะการออกแบบ พร้อมผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่น ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน มาเสนอผ่านโครงสร้างอาคาร และการตกแต่ง เพื่อให้ Pai Villa Phuket ไม่ใช่แค่สิ่งปลูกสร้าง แต่มีเรื่องราวและรูปแบบเปรียบเสมือนงานศิลปะชนิดหนึ่ง
Pai Villa Phuket ประกอบด้วยวิลล่า 5 ห้องนอน ขนาด523 ตารางเมตร และวิลล่า 3 ห้องนอน ขนาด 313 ตารางเมตร พร้อมห้องนั่งเล่น สระว่ายน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับมาตรฐานโรงแรม ด้วยแนวคิดด้านการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการพักผ่อนของผู้เข้าพักให้มากที่สุด ทางวิลล่าจึงมีบริการฟิตเนส และ kid’s play room เพื่อเติมเต็มวันหยุดพักผ่อนของคุณ
พิเศษ สำหรับแฟนเพจ Phuket Andaman News ทางวิลล่า ขอมอบส่วนลดให้ 60% จากราคาปกติ เพียงแจ้งว่ารู้จักเราผ่านทาง Phuket Andaman News
วิลล่า 5 ห้องนอน ราคาปกติ อยู่ที่ 45,000 บาท ต่อคืน เหลือเพียง 18,000 บาทต่อคืนพร้อมอาหารเช้า พักได้ 10 ท่าน
วิลล่า 3 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ราคาปกติอยู่ที่ 38,000 บาท ต่อคืน เหลือเพียง 15,200 พร้อมอาหารเช้า เข้าพักได้ 6 ท่าน
แล้วมาสัมผัสการพักผ่อนแบบ Exclusive ได้ที่ Pai Villa Phuket กันนะคะ

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.paivillaphuket.com หรือ ทางเฟสบุคเพจ Pai Villa Phuket
ข้อมูลติดต่อ
Pai Villa Phuket
ที่อยู่ : 228/1 ถนนโคกโตนด ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
โทร : +66 0653988189
Email : info@paivillaphuket.com

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

พิพิธภัณฑ์เปลือกหอย



ชมไข่มุกสีทองและฟอสซิลหอยร้อยล้านปี

เป็นสถานที่เก็บรวบรวมเปลือกหอยที่พบในท้องทะเลอันดามันและท้องทะเลทั่วโลก  และจัดแสดงอย่างเป็นระบบ  มีข้อมูลประกอบอย่างน่าสนใจ  นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
    
     ประวัติ  สมนึก ปัทมคันธิน  เจ้าของพิพิธภัณฑ์ฯ เป็นผู้ที่สนใจเรื่องหอยมาตั้งแต่เยาว์วัย  จึงเริ่มศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง  ทั้งรับซื้อและแลกเปลี่ยนเปลือกหอยจากคนภูเก็ตและสนใจหอยทั่วไป  ทำให้มีเปลือกหอยแปลกใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  กระทั่งคิดสร้างพิพิธภัณธ์เปลือกหอยขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องหอยแก่บุคคลทั่วไป  โดยเปิดให้เข้าชมเมื่อเดือนธันวาคม  2540

สิ่งที่น่าสนใจ

      ภายในอาคารพิพิธภันฑ์จัดเเสดงเปลือกหอยเป็นหมวดหมู่อย่างสวยงาม  จำแนกเป็นประเภทใหญ่ๆสี่กลุ่มได้แก่ 
1.   หอยเบี้ย  เป็นหอยที่คนนิยมสะสมมากที่สุด  เปลือกโค้งมนผิวเปลือกเป็นมันวาวคล้ายกระเบื้องเคลือบ
2.   หอยเต้าปูน  เป็นหอยมีพิศเลืองเป็นทรงกรวย  มีขนาด  สีสันและลวดลาย ที่หลากหลายมาก
3.   หอยสังข์หนาม หรือหอยหน้ายักษ์  เป็นหอยทะเลกลุ่มใหญ่ที่สุด เป็นหอยฝาเดี่ยว มีหนามขึ้นเป็นแนวรอบตัว
4.   หอยสังข์จุกพราหมณ์  อาศัยอยู่ตามพื้นทรายปนเลนนอกแนวชายฝั่ง  พบในไทยเพียงสองชนิด

      หอยแต่ละกลุ่มที่จัดแสดง  มีทั้งเปลือกหอยที่พลในน่านน้ำไทย เช่น  บริเวณ  จ.ภูเก็ต สตูล  กระบี่  ระนอง  เปลือกหอยจากหลายประเทศทั่วโลก  เช่น  จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  อ่าวเม็กซิโก  แอฟริกาใต้  เป็นต้น  เป็นทั้งเปลือกหอยที่หายาก  หอยทุกตัวมีป้ายบอกชื่อ  ลำดับชั้นทางวิทยาศาสตร์  และคำบรรยายภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  ตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น ไข่มุกทองหนัก 140 กะรัต ที่พบทางฝั่งตะวันตกของภูเก็ต ฟอสซิลหอยกาบสองฝาอายุนับร้อยล้านปี

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หาดในหาน

    


      เป็นชายหาดที่อยู่ทางด้านใต้ของภูเก็ต  จุดเด่นของหาดคือมีเรือยอชต์จำนวนมากทั่วโลกมาจอดพักที่นี่  จนกลายเป็นแหล่งชุมนุมเรือยอชต์  ชื่อโรงแรมบนหาดนี้ก็มีความหมายเกี่ยวข้องกับเรือยอชต์

 สิ่งที่น่าสนใจ
      หาดทรายขาวสะอาด  น้ำใส  ลงเล่นน้ำได้  แต่หาดลึกชันต้องใช้ความระมัดระวัง  ทั้งหน้ามรสุมจะมีคลื่นสูง  ริมหาดไม่มีไม้ใหญ่ให้ร่มเงา  ช่วงกลางวันอากาศจึงค่อนข้างร้อน  แต่ทว่าบรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง  เรือแต่ละลำสีสวยสะดุดตาแต่งแต้มสีสันให้หาดนี้เป็นอย่างมาก  เยื้องกับหาดด้านขวามีร้านขายของ  บริษัททัวร์ และบาร์เบียร์ บริการ
 

                                                 จองโรงแรมที่พักบริเวณหาดในหาน  คลิก

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

จุดชมทิวทัศน์สามอ่าว

จุดชมทิวทัศน์สามอ่าว
          

           เป็นจุดชมทิวทัศน์ยอดนิยมเช่นเดียวกับแหลมพรหมเทพ  นักท่องเที่ยวมักมาแวะชมทิวทัศน์ที่นี่  ก่อนไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ  การชมท้องทะเลจากมุมสูงให้อารมณ์และบรรยากาศต่างกับการยืนชมบริเวณหน้าหาดมากทีเดียว

สิ่งน่าสนใจ
           จุดชมทิวทัศน์มีลักษณะเป็นเนินเขาสูง  บนเนินมีศาลาเล็ก ๆ ให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์  แต่ตรงลานจอดตถด้านล่างก็มองเห็นทิวทัศน์ได้เช่นกัน  บริเวณศาลาบนเนินลมพัดเย็นสบาย  มองเห็นหาดสามแห่ง  หาดที่อยู่ใกล้ตัวมากสุด คือ หาดกะตะน้อย  ถัดไปเป็นหาดกะตะและหาดกะรนตามลำดับ  เนื่องจากคลื่นลมมรสุมกัดเซาะ  ทำให้แผ่นดินเว้าลึกเข้าไป  ทั้งสาามหาดจึงมีลักษณะเป็นอ่าวเว้าโค้งรูปพระจันทร์เสี้ยวติดต่อกันสามอ่าว  โดยมีโขดหินเป็นแหลมคั่นแต่ละหาด ในวันที่ทัศนวิสัยดีจะเห็นน้ำทะเลเป็นสีน้ำเงินเข้ม  คราม  ฟ้า  เขียวมรกต  ไล่โทนแก่อ่อนอย่างงดงาม ตัดกับสีขาวสะอาดของหาดทรายที่แต่งแต้มด้วยร่มหลากสี  มีเรือลำน้อยแล่นอยู่ลิบ ๆ  ใกล้เข้ามาเป็นยอดตึกของกลุ่มโรงแรมกะตะธานี บีช รีสอร์ต  และเรือนยอดมะพร้าว

เสียงจาก “ลันตา” ภัย โควิด-19 ชนไฮซีซั่น

เสียงจาก “ลันตา” ภัย โควิด-19 ชนไฮซีซั่น ทำ 3 จังหวัดท่องเที่ยวพังยับ จีนไม่มา ไร้ยอดจองนักท่องเที่ยวยุโรป ผู้ประกอบการแนะรัฐเดินหน้าสร้...